น้ำมันสำหรับสบู่แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ที่ส่งผลต่อความแข็ง ฟอง และความชุ่มชื้นของสบู่แตกต่างกันไป
เบสสบู่ที่ดีต้องมีสูตรน้ำมันที่สมดุล ผสมผสานระหว่างน้ำมันแข็ง น้ำมันเหลว และน้ำมันบำรุงในสัดส่วนที่เหมาะสม น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม เป็นฐานหลักที่ให้ความแข็งและฟองชนิดต่างกัน ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานโดยตรง การเลือกน้ำมันคุณภาพดี ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ต้องเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และงบประมาณของคุณ ค่า SAP Value และ INS Value เป็นตัวเลขสำคัญที่ช่วยคำนวณสูตรสบู่ให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ น้ำมันเสริมพิเศษ เช่น น้ำมันอาร์แกน น้ำมันอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มคุณค่าและความหรูหราให้กับสบู่
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นทำสบู่ เพราะน้ำมันแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันมาก บางชนิดให้ฟองเยอะ บางชนิดให้ความชุ่มชื้น บางชนิดทำให้สบู่แข็ง การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณสร้าง **เบสสบู่ที่ดี** ที่ตรงกับความต้องการได้อย่างแม่นยำ ในตลาดมีน้ำมันให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งราคาถูกและแพง แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าน้ำมันแต่ละชนิดให้ผลลัพธ์อย่างไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบสำคัญในเบสสบู่อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้น้ำมันได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่า
น้ำมันมะพร้าว เป็นวัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้ในการทำสบู่ เพราะให้ฟองที่อุดมสมบูรณ์และทำความสะอาดได้ดีเยี่ยม น้ำมันชนิดนี้มี SAP Value สูง ทำให้สบู่แข็งตัวเร็วและมีความแข็งที่ดี
คุณสมบัติเด่นของน้ำมันมะพร้าวในสบู่: ให้ฟองเยอะและแน่น เหมาะสำหรับสบู่ที่ต้องการความสะอาดล้ำลึก ทำให้สบู่แข็งและทนทาน ไม่เละง่ายเมื่อแช่น้ำ ละลายน้ำได้ดี แม้ในน้ำเย็นหรือน้ำกระด้าง มีราคาไม่แพง หาซื้อง่ายในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หากใช้น้ำมันมะพร้าวมากเกินไป (เกิน 30-35%) อาจทำให้สบู่ทำความสะอาดมากเกินไป จนผิวแห้งได้ โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้ง
น้ำมันปาล์ม เป็นอีกหนึ่งเสาหลักของเบสสบู่ที่ดี ให้ความแข็งและความคงทนที่ยอดเยี่ยม พร้อมฟองที่ครีมมี่และนุ่มนวล ต่างจากฟองของน้ำมันมะพร้าวที่เป็นฟองเล็กและแน่น
ข้อดีของน้ำมันปาล์มในสูตรสบู่: ให้ความแข็งที่ยาวนาน สบู่ไม่เละง่าย ฟองครีมมี่นุ่มนวล สัมผัสดีต่อผิว ช่วยปรับสมดุลสูตร เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมันอื่นๆ ราคาประหยัด เหมาะสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์ สัดส่วนที่แนะนำคือ 30-40% ของสูตร แต่ปัจจุบันมีความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม หลายคนจึงหันไปใช้ทางเลือกอื่น เช่น น้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรอง RSPO หรือใช้ Babassu Oil แทน

เป็นน้ำมันมหัศจรรย์ที่ช่วยเพิ่มฟองให้กับสบู่ได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะใช้เพียงเล็กน้อย (5-10%) ก็สามารถเพิ่มปริมาณฟองและความคงทนของฟองได้มาก เบสสบู่ที่ดี เพิ่มฟองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟองมากขึ้นและคงทนนานขึ้น ช่วยดึงความชุ่มชื้นมาสู่ผิว เป็น Humectant ตามธรรมชาติ ทำให้สบู่โปร่งใส เหมาะสำหรับสบู่ใส ช่วยให้สบู่เหลวมีเนื้อสัมผัสดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เกิน 10-15% เพราะจะทำให้สบู่นุ่มเกินไปและเละง่าย
น้ำมันชนิดนี้ต่างจากน้ำมันมะพร้าวธรรมดา เพราะผ่านกระบวนการแยกกรดไขมันที่แข็งตัวออกไป เหลือแต่กรดไขมันที่เป็นของเหลวใสๆ
ข้อดีของน้ำมันมะพร้าวสกัด: ไม่มีกลิ่น เหมาะสำหรับสบู่ที่ต้องการกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย ซึมซาบเร็วไม่ทิ้งความมันบนผิว เหมาะสำหรับผิวมัน
น้ำมันทานตะวัน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการ มีวิตามินอีสูงและเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
คุณสมบัติของน้ำมันทานตะวันในสบู่: เบาไม่หนักผิว เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม มีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิว ให้ฟองนุ่มพอสมควร เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมันอื่น
ข้อควรระวังคือ น้ำมันทานตะวันมีโอเมก้า-6 สูง ทำให้เสียได้ง่ายกว่าน้ำมันอื่น ควรเก็บในที่เย็นและใช้ภายใน 6-12 เดือน
น้ำมันอาร์แกน เป็นน้ำมันหายาก มีราคาแพงแต่ให้คุณค่าทางผิวหนังที่ยอดเยี่ยม การเลือกน้ำมันต่างๆ ควรให้เลือกให้เหมาะกับต้นทุนและคุณภาพที่ต้องการเพื่อให้สบู่มีคุณภาพที่เหมาะกับลูกค้าเป้าหมาย